นิทานนานาชาติเรื่อง ลูกหมูสามตัว อีกนิทานสอนใจคลาสสิกที่เด็กไทยต้องเคยได้รับฟังหรืออ่านนิทานมาแล้วแทบทั้งสิ้น เหตุการณ์ของลูกหมูสามตัวเป็นพี่น้องกันที่ได้สร้างบ้านเป็นของตนเอง แต่ทั้งสามสร้างบ้านด้วยวัสดุที่ต่างกัน และมีหมาป่าที่เฝ้ามองและหาหนทางที่จะกินลูกหมูทั้งสามตัวให้ได้ เรื่องราวจะเป็นอย่างไรนั้น ลูกหมูจะถูกหมาป่าจับกินได้หรือไม่…วันนี้มาในเวอร์ชันนิทานภาษาอังกฤษแปลเป็นไทยเรื่อง ลูกหมูสามตัว อ่านสนุกและได้ฝึกสองภาษา อ่านได้ทั้งเด็กและผู้ใหญ่ที่ให้แง่คิดสอนใจที่ดีในการใช้ชีวิต ไปติดตามรับชมพร้อมกันเลยค่ะ^^
นิทานภาษาอังกฤษแปลไทยเรื่อง ลูกหมูสามตัว
(The Three Little Pigs)
กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว มีลูกหมูสามตัว หมูตัวแรกสร้างบ้านด้วยฟาง ส่วนหมูตัวที่สองสร้างบ้านด้วยไม้
พวกมันทั้งสองตัวจึงสร้างบ้านเสร็จในเวลาอันรวดเร็ว จากนั้นก็ร้องเพลงและเต้นรำตลอดทั้งวันเพราะพวกเขาเกียจคร้าน ส่วนลูกหมูตัวที่สามทำงานหนักตลอดทั้งวันและสร้างบ้านด้วยอิฐ
เจ้าหมาป่าตัวใหญ่ดุร้ายตัวหนึ่งมองเห็นลูกหมูสองตัวเต้นระบำและเล่นกันอยู่ และคิดว่า “เนื้อฉ่ำๆ และนุ่มๆ ของลูกหมูพวกนั้นช่างเป็นอาหารอันยอดเยี่ยมอะไรเช่นนี้”
หมาป่าจึงไล่จับลูกหมูสองตัวนั้น ในขณะที่เจ้าลูกหมูทั้งสองตัวก็วิ่งหนีไปซ่อนตัวอยู่ในบ้านของตน หมาป่าตรงเข้าไปยังบ้านหลังแรก แล้วสูดลมหายใจเข้าและพ่นลมเป่าไปยังบ้าน แล้วพัดบ้านที่ทำด้วยฟางพังทลายลงมาภายในไม่กี่นาที
ลูกหมูตัวแรกตกใจกลัวอย่างมากจึงวิ่งไปยังบ้านลูกหมูตัวที่สองที่สร้างจากไม้ เจ้าหมาป่าตัวใหญ่ดุร้ายตามมาที่บ้านหลังนี้ และสูดลมพองตัวหายใจเข้าและพ่นลมเป่าไปยังบ้าน แล้วก็พัดบ้านหลังที่สองพังทลายลงมาในที่สุด
ในเวลานี้, ลูกหมูน้อยทั้งสองตัวต่างตกใจกลัวและรีบวิ่งไปที่บ้านของลูกหมูตัวที่สามที่สร้างจากอิฐ
เจ้าหมาป่าดุร้ายพยายามพ่นลมหายใจและระเบิดบ้านให้พังทลายแต่ก็ทำไม่ได้ เขาพยายามอยู่หลายชั่วโมงแต่บ้านก็แข็งแรงมาก และลูกหมูก็ปลอดภัยอยู่ภายในบ้านอิฐหลังนี้
เจ้าหมาป่าพยายามเข้าไปในปล่องไฟ แต่ลูกหมูน้อยตัวที่สามได้ต้มน้ำใส่ในหม้อใบใหญ่และนำไปวางไว้ใต้ปล่องไฟ เจ้าหมาป่าตกลงไปในนั้นและตายในที่สุด
เจ้าลูกหมูสองตัวแรกในเวลานี้รู้สึกเสียใจกับเกียจคร้านขนาดนี้ของพวกมัน ลูกหมูทั้งสองจึงสร้างบ้านใหม่ของตนด้วยอิฐและใช้ชีวิตอย่างมีความสุขตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา
นิทานฉบับภาษาอังกฤษเรื่อง The Three Little Pigs (ลูกหมูสามตัว)
Once upon a time there were three little pigs. One pig built a house of straw while the second pig built his house with sticks.
They built their houses very quickly and then sang and danced all day because they were lazy. The third little pig worked hard all day and built his house with bricks.
A big bad wolf saw the two little pigs while they danced and played and thought, “What juicy tender meals they will make!”
He chased the two pigs and they ran and hid in their houses. The big bad wolf went to the first house and huffed and puffed and blew the house down in minutes.
The frightened little pig ran to the second pig’s house that was made of sticks. The big bad wolf now came to this house and huffed and puffed and blew the house down in hardly any time.
Now, the two little pigs were terrified and ran to the third pig’s house that was made of bricks.
The big bad wolf tried to huff and puff and blow the house down, but he could not. He kept trying for hours but the house was very strong and the little pigs were safe inside.
He tried to enter through the chimney but the third little pig boiled a big pot of water and kept it below the chimney. The wolf fell into it and died.
The two little pigs now felt sorry for having been so lazy. They too built their houses with bricks and lived happily ever after.
นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า (Moral of the story)
“การเกียจคร้าน…ไม่ได้ทำให้เราสบายได้จริงแต่จะนำทุกข์ภัยมาสู่ตน.”
“เราจึงควรอย่างยิ่งที่จะ…ขยันหมั่นเพียร”
“อดทนลำบาก…ในวันนี้จะสบายในวันหน้า”
การที่หมูตัวที่สามยอมเสียเวลานานในการสร้างบ้านด้วยอิฐ แต่สุดท้ายก็ได้บ้านที่แข็งแรง ปลอดภัยสำหรับตัวเอง และยังเผื่อแผ่ให้กับหมูอีกสองตัวด้วย…เรื่องนี้แฝงคติแง่คิดดีๆ ในการใช้ชีวิต ความมีน้ำใจ และความรักที่มีต่อพี่น้องได้อย่างดีเยี่ยม
คุณพ่อคุณแม่สามารถเน้นย้ำผลของความพยามนี้ให้เด็กๆ เห็น เพื่อเป็นแบบอย่างที่ดีในการฝึกความอดทนทำสิ่งต่างๆ แบบลูกหมูได้นะคะ
คำศัพท์น่ารู้ (Vocabulary)
straw (n.) = ฟาง
stick (n.) = ไม้
brick (n.) = อิฐ
tender (ADJ) = อ่อนนุ่ม
juicy (ADJ) = ฉ่ำ
huff (v.) = หอบ, ทำให้โกรธ
terrified (ADJ) = ขวัญเสีย
chimney (n.) = ปล่องไฟ
………………………..
เรียบเรียงข้อมูล: nitanstory.com Credit: funtales4u.blogspot.com Photo Credit: moonzia.com