นิทานอีสป เรื่อง สุนัขจิ้งจอกกับนกกระสา
นานมาแล้ว มีนกกระสาตัวหนึ่งเต้นรำเก่งมาก
นกกระสาตัวนี้ มักจะออกมาเต้นรำให้พวกสัตว์ป่าดูอย่างเพลิดเพลินที่ริมแม่น้ำ
มันภาคภูมิใจในตนเองเป็นอย่างยิ่ง
ที่สัตว์ป่าทั้งหลายต่างยกย่องให้เป็น…เจ้าแห่งการเริงระบำ…ของเหล่ามวลสัตว์
และวันนี้ มันได้ออกมาเริงระบำดั่งเช่นทุกวันที่ผ่านมา
จนกระทั่งวันหนึ่ง…มีสุนัขจิ้งจอกขี้อิจฉาตัวหนึ่ง
มันได้ออกมาเต้นรำเลียนแบบอยู่ข้างๆ กับนกกระสา
เจ้าสุนัขจิ้งจอกได้คิดอิจฉา…นกกระสาเป็นอย่างมาก
มันจึงออกมาร่ายรำ…อวดสัตว์ป่า…
เพราะหวังเพียงแค่อยากจะได้รับคำชมบ้าง…ก็เท่านั้น
แต่สัตว์ป่าต่างๆกลับรู้สึกหวาดกลัวเจ้าสุนัขจิ้งจอกเหลือเกิน
พวกสัตว์ป่าทุกตัวเลยพากันวิ่งหนี…วงแตกกระจายไปหมด
ด้วยเหตุนี้…ทำให้สุนัขจิ้งจอกผูกใจคิดแค้นนกกระสาเป็นอย่างมาก
มันจึงแสร้งทำเป็นมาผูกมิตรไมตรี…เป็นเพื่อนกับนกกระสา
วันหนึ่ง สุนัขจิ้งจอกได้เชิญนกกระสาให้มาร่วมรับประทานอาหารเย็นด้วยกัน
และแกล้งนกกระสาด้วยการไม่มีสิ่งใดมาเลี้ยงต้อนรับเลย
นอกจากน้ำซุปที่ใส่ไว้ในจานทรงตื้นเท่านั้น
สุนัขจิ้งจอกสามารถใช้ลิ้นตะหวัดกินซุปได้อย่างง่ายดาย
ในทางกลับกันนกกระสาได้เพียงแต่จุ่มปากจงอยของมันลงไปในซุปเท่านั้น
และปล่อยอาหารมือนั้นเหลือไว้เหมือนกับความหิวของมันที่ยังคงอยู่
“ฉันขอโทษด้วย” สุนัขจิ้งจอกเอ่ย “เธอคงไม่ชอบซุป”
“ท่านไม่จำเป็นต้องขอโทษหรอก” นกกระสากล่าว
“ฉันหวังว่าเธอจะกลับมาเยือนอีกครั้งและร่วมรับประทานอาหารกับฉันในเร็วๆนี้”
สุนัขจิ้งจอกกล่าว
จนกระทั่งถึงวันนัดหมายที่สุนัขจิ้งจอกมาเยือนนกกระสาบ้าง
แต่เมื่อทั้งสองนั่งลงที่โต๊ะอาหาร
ที่นำมาทั้งหมดในมื้อนั้น ถูกใส่ไว้ในเหยือกที่มีคอยาวและปากแคบใบหนึ่ง
ซึ่งหมาจิ้งจอกไม่สามารถเอาแม้แต่จมูกของมันใส่ลงไปได้
สิ่งเดียวที่มันสามารถทำได้คือ การเลียที่ด้านนอกของเหยือก
“ฉันจะไม่กล่าวขอโทษสำหรับอาหารมื้อนี้หรอกน่ะ” นกกระสากล่าว
“การกระทำใดๆที่ไม่ดีต่อผู้อื่น…สักวันหนึ่งเราอาจได้รับสิ่งนั้นกลับมา”