นิทานเซนเรื่อง ผู้รับ…ผู้ให้ เป็นนิทานเรื่องสั้น อ่านได้ทุกเวลา หรืออ่านก่อนนอนเป็นแง่คิดดีๆ เพื่อการนำไปปรับใช้ในชีวิตประจำวัน ถ้าเปรียบเหตุการณ์ในเรื่องนี้คือตัวคุณเอง หากคุณต้องเป็น…ผู้เลือกยอดซามูไรคุณจะเลือกใคร?…จะมีมุมมองความคิดแตกต่างไปจากตัวละครในเรื่องหรือไม่ เป็นนิทานที่แฝงไว้ด้วยปรัชญาที่ลุ่มลึก ผ่านเรื่องราวการดำเนินเรื่องที่เรียบง่าย เราไปรับชมพร้อมกันเลย!!
นิทานเซนเรื่อง ยอดซามูไร
ซามูไรผู้หนึ่งมีลูกชาย 3 คน ต่างก็มีความเชี่ยวชาญในเชิงซามูไร พอถึงวาระที่ซามูไรผู้พ่อจะต้องมอบตราประจำตระกูล ให้ลูกชายเพื่อสืบทอดต่อไปนั้น เขาก็ใช้วิธีทดสอบความสามารถของลูกๆ ทั้ง 3 คน ซามูไรผู้พ่อคิดวิธีได้แล้วก็เข้าไปนั่งอยู่ในห้องแล้วหับประตูไว้ ประตูห้องแบบญี่ปุ่นเป็นแบบฉากเลื่อนและบนประตูแบบฉากเลื่อนนี้เอง ซามูไรผู้พ่อก็นำเอาหมอนลูกหนึ่งขึ้นไปวางไว้แล้วแกก็เรียกให้ลูกชายเข้าไปหาทีละคน
ลูกชายคนโตถูกเรียกก่อน…เมื่อเดินไปถึงประตูเลื่อน พอขยับประตูก็มองเห็นหมอนอยู่ข้างบน จึงเอื้อมมือไปหยิบแล้วเลื่อนประตูเข้าไปหาพ่อ ซามูไรผู้พ่อสั่งให้เอาหมอนไปไว้ที่เดิมแล้วให้นั่งรออยู่ในห้อง
ลูกชายคนกลางถูกเรียกเป็นคนต่อไป…เมื่อเดินไปถึงประตูก็เลื่อนประตูเปิด ทันใดนั้นหมอนก็ตกลงมาลูกชายคนกลางรีบรับเอาไว้ทันทีโดยแทบไม่มีเสียงเลยแล้วจึงเดินเขาไปหาพ่อ ซามูไรผู้พ่อจึงสั่งให้เอาหมอนไปวางไว้ที่เดิมแล้วให้นั่งรออยู่ในห้องเช่นกัน
ลูกชายคนเล็กถูกเรียกเป็นคนสุดท้าย…พอเดินถึงประตูก็เลื่อนเปิดทันที หมอนก็ตกลงมา ในชั่วพริบตาดาบซามูไรก็ปลิวออกจากฝัก หมอนถูกฟันจนนุ่นปลิวว่อน แล้วเสียบดาบลงฝักเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น แทบไม่มีใครเห็นใบดาบซามูไรเลยก็ว่าได้ แล้วลูกชายคนเล็กก็เดินอย่างสง่าและสงบเข้าไปหาพ่อ…
ถ้าเป็นท่านๆ จะมอบตำแหน่งให้ลูกคนไหน ?
ครั้นแล้ว ถึงเวลาที่ซามูไรผู้พ่อจะมอบดาบ พ่อก็พูดกับลูกซามูไรทั้งสามว่า
“ดาบประจำตระกูล จะตกได้แก่ยอดซามูไรเท่านั้น”
“เจ้าเล็ก เจ้าใช้ดาบได้รวดเร็วดั่งใจ เจ้าใช้ใจ”
“เจ้ากลาง เจ้ารู้วิธีใช้มือแทนดาบได้ เจ้าใช้มือ”
“เจ้าโต เจ้ารอบคอบรู้การควรไม่ควร ก่อนทำการทั้งปวง “เจ้าใช้หัว หรือปัญญา” ไม่ได้ใช้ดาบเพียงอย่างเดียว…พ่อขอมอบดาบประจำตระกูลให้เจ้า เจ้าจงปกครองคนในตระกูลแทนพ่อสืบต่อไป”
คนเราจะทำการงานใหญ่หรืองานสิ่งใดให้สำเร็จ…ใช้แต่อารมณ์หรือความชอบใจหรือไม่ชอบใจอย่างเดียวไม่ได้…ใช้แต่แรงกายแรงใจหรือเก่งในสิ่งที่ทำที่รักอย่างเดียวก็ไม่ได้…แต่จะต้องมีปัญญาประกอบด้วยเป็นสำคัญ!!
”ได้ทำในสิ่งที่ใจรักใจชอบ…ทุ่มเทพยายามทั้งแรงกายแรงใจ…และจะต้องมีปัญญาประกอบด้วยเป็นสำคัญ” จึงจะนำไปสู่การประสบความสำเร็จในสิ่งที่ทำได้
ปัญญา เป็นสิ่งที่ฝึกฝนกันได้ให้มีมากขึ้นในตัวเรา
ปัญญา (บาลี: ปญฺญา, จาก ป- อุปสรรค + ญา ธาตุ (รู้) + -กฺวิ ปัจจัยนามกิตก์) แปลว่า ความรอบรู้, ความรู้ทั่ว หมายถึงความฉลาดเกิดแต่เรียนและคิด)
5 วิธีฝึกตนให้เป็นผู้มีปัญญาแบบง่ายๆ
ซึ่งคุณพศิน อินทรวงค์ ได้แนะนำไว้ 5ข้อแบบง่าย เพื่อนๆสามารถดูเนื้อหาบทความเต็มได้ที่บทความนี้ค่ะ 5วิธีฝึกตนให้เป็นผู้มีปัญญาแบบง่ายๆ
1. หยุดพูดในสิ่งไม่ดี..
(เป็นนายของใจหรือเป็นทาสของใจก็อยู่ตรงนี้)
2. ฝึกตื่นเช้า/นอนเร็ว..
(เป็นนายของเวลา หรือเป็นทาสของเวลาก็อยู่ตรงนี้)
3. ฝึกลดความต้องการของชีวิต..
(เป็นนายของเงิน หรือเป็นทาสของเงินก็อยู่ที่ตรงนี้)
4. ฝึกอยู่กับตนเองให้เป็น..
(เป็นนายของความคิด หรือเป็นทาสของความคิดก็อยู่ตรงนี้)
5. ฝึกคิดอย่างผู้เท่าทันโลก..
(เป็นเพื่อนกับความจริง หรือถูกความจริงเหยียบจมดินก็อยู่ตรงนี้)
การฝึกฝนในห้าข้อนี้ ไม่ใช่เรื่องยากหรือง่าย แต่เป็นเรื่องทำหรือไม่ทำ เมื่อกระทำอย่างสม่ำเสมอ จะทำให้ชีวิตดีขึ้นอย่างผิดหูผิดตา โลกภายในของเราจะเปลี่ยนไปอย่างเห็นได้ชัดในระยะเวลาหนึ่งเดือน แม้ฝึกฝนต่อไปนานกว่านั้น ก็จะติดตัวกลายเป็นอุปนิสัย ส่งผลให้เกิดสติปัญญา และความสุขเพิ่มพูน
………………………..
เรียบเรียงข้อมูล : nitanstory.com
ขอขอบคุณที่มาจาก: dharma-gateway.com