นิทานคติธรรมสอนใจ นิทานคุณธรรมเรื่อง ฤาษีลวงตะกวด
กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว มีฤาษีผู้มีตบะกล้าตนหนึ่ง เป็นที่เคารพศรัทธาของชาวบ้านมาก จึงได้สร้างศาลาไว้ให้ที่ชายป่าแห่งหนึ่ง และที่บริเวณนั้นมีตะกวดตัวหนึ่ง อาศัยอยู่ที่จอมปลวกใหญ่ ใกล้ที่อยู่ของฤาษีนั้น ตะกวดตัวนี้มักจะไปหาฤาษีเป็นประจำทุกวัน เพื่อไปทานอาหารที่ฤาษีให้ เมื่อทานเสร็จแล้วจึงกลับไปอยู่ที่อยู่ของตน
ต่อมาไม่นาน ท่านฤาษีได้อำลาชาวบ้านไปที่อื่น ต่อมาได้มีฤาษีเจ้าเล่ห์ตนหนึ่ง เข้ามาอาศัยอยู่แทน ตะกวดก็คิดว่า แม้ท่านผู้นี้ก็คงทรงศีลเหมือนกัน จึงไปหาฤาษีนั้นเช่นเดิม อยู่มาวันหนึ่งชาวบ้านแถวนั้นได้นำอาหาร มาถวายฤาษี พอท่านได้ทานอาหารซึ่งมีเนื้อปรุงรสแล้วเกิดติดใจในรสนั้น และอยากจะทานอีก จึงแกล้งถามชาวบ้านว่า เนื้ออะไร? ชาวบ้านตอบว่า “เนื้อตะกวด” เมื่อทราบว่าเป็นเนื้อตะกวด จึงคิดได้ว่า “ มีตะกวดใหญ่ตัวหนึ่งมาหาเราเป็นประจำ ดีละเราจะฆ่ามันเพื่อกินเนื้อซะลาภปากมาหาถึงที่ ”
คิดแล้ว จึงให้ชาวบ้านเอาเครื่องปรุงมาเตรียมไว้ ส่วนตัวฤาษีนั่งถือไม้ขนาดพอเหมาะซ่อนอยู่ข้างหลัง เย็นวันนั้น ตะกวดได้ไปหาฤาษีตามปกติ ได้เห็นท่านั่งที่แปลกๆของฤาษี จึงคิดว่า “วันนี้ฤาษี ท่านนั่งหลับๆลืมๆ ชอบกลอยู่ นั่งท่าที่ไม่เหมือนวันก่อน ชำเลืองเราเป็นประจำ” ตะกวดจึงคลานไปอยู่ใต้ทิศทางลม และได้กลิ่นเนื้อตะกวด จึงทราบทันที่ว่า ดาบสเจ้าเล่ห์นี้ คงกินเนื้อตะกวดแล้วเกิด ความติดใจ คราวนี้ หวังจะตีเรา เอาเนื้อไปทำเป็นอาหารแน่ๆ เมื่อคิดได้เช่นนั้น จึงไม่ยอมเข้าไปใกล้ ถอยกลับแล้ววิ่งหนีไป
ฝ่ายฤาษีเจ้าเล่ห์ทราบว่าตะกวดรู้ตัวแล้วไม่ยอมมาเข้าใกล้ จึงลุกขึ้นขว้างท่อนไม้ตามหลังไป ท่อนไม้ได้ถูกเพียงส่วนหางของตะกวดเท่านั้น ตะกวดตกใจรีบหลบเข้าไปในจอมปลวกอย่างรวดเร็ว โผล่เพียงศีรษะออกมาเท่านั้น และกล่าวติเตียนฤาษีว่า “นี่เจ้าฤาษีผู้ไร้ยางอาย จะมีประโยชน์อะไรแก่เจ้า ด้วยการแต่งตัวเป็นผู้ทรงศีล แต่จิตใจกลับชั่วร้ายหลอกลวงไม่มีความเมตตา ดีแต่ข้างนอกแต่ข้างในกลวง หลอกลวงได้แต่เฉพาะพวกรู้ไม่ทันเท่านั้น” ว่าแล้วตะกวดก็มุดลงรู และไม่เคยมาหาฤาษีอีกเลย