นิทานพื้นบ้านหรือตำนานเรื่องดาวลูกไก่ เป็นวรรณกรรมพื้นบ้านที่ใช้เป็นนิทานอธิบายเหตุที่มาของชื่อ ดาวลูกไก่ และจำนวนดาวลูกไก่ที่มี 7 ดวง เป็นเรื่องที่นิยมเล่ากันอย่างแพร่หลายในภาคกลาง ภาคเหนือ และภาคอีสาน สำหรับปัจจัยที่ทำให้นิทานพื้นบ้านเรื่องดาวลูกไก่เป็นที่รู้จักกันโดยกว้างขวางและสืบทอดมาจนถึงปัจจุบัน คือ การนำสาระจากนิทานมาประพันธ์เป็นเนื้อเพลงในภาคเหนือ ช่างซอนิยมขับค่าวซอเรื่องดาววีไก่น้อยในงานชุมนุมหรืองานฉลอง งานประเพณี รวมทั้งงานบุญต่างๆ หรือขับร้องเพื่อสอนลูกหลานให้ประพฤติดี ไม่ทำชั่ว สอนเรื่องบาปบุญคุณโทษ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง
นิทานเรื่อง ดาวลูกไก่
ที่ชายป่าแห่งหนึ่งไม่ไกลจากเชิงเขา ตากับยายปลูกกระท่อมอาศัยอยู่กันตามลำพัง
มีอาชีพเก็บผักและของป่าไปขายให้พอเลี้ยงชีพได้
ตากับยายเลี้ยงไก่ตัวหนึ่งไว้กินไข่
ต่อมาแม่ไก่ออกไข่ แล้วฟักออกมาเป็นลูกไก่ตัวน้อยๆน่ารัก 7 ตัว
ตากับยายนั้น เลี้ยงดูและเมตตาให้อาหารกับแม่ไก่และลูกไก่ตามกำลัง
บางครั้งให้ข้าวเปลือก บางคราให้เป็นอาหาร
แม่ไก่บอกลูกไก่ทั้ง 7 ว่า “จำไว้นะลูกจ๋า ตากับยายเป็นผู้มีพระคุณ”
ส่วนตากับยายนั้น ก็เฝ้าดูแม่ไก่และลูกไก่น้อย…
ที่คอยคลอเคลียแม่ไม่ยอมห่าง…ด้วยความเอ็นดู
วันหนึ่ง มีเหยี่ยวตัวหนึ่งโฉบบินอยู่กลางเวหา
แม่ไก่และลูกไก่เห็นต่างพากันชุลมุนวิ่งหนีลนลาน
เจ้าเหยี่ยวบินถลาลงมา หวังจะโฉบจับไก่ไปเป็นอาหาร
แต่ตายายเห็นเข้า คว้าไม้คานไล่เหยี่ยวทันเวลา
แม่ไก่และลูกไก่ปลอดภัย รู้สึกซาบซึ้งบุญคุณของตากับยายเป็นอย่างมาก
ที่ช่วยชีวิตมันไว้ ให้รอดพ้นจากอันตราย
อยู่มาวันหนึ่ง ได้มีพระธุดงค์มาปักกลด อยู่ริมเชิงเขา
ตากับยายจึงเข้าไปนมัสการ และตั้งใจว่าจะทำอาหารไปถวายพรุ่งนี้
เมื่อค้นดูในเสบียงอาหาร ในครัวก็ไม่มีอะไรเหลืออยู่เลย
ตากับยายสงสารพระมาก..เกรงว่าจะอดอาหาร
เพราะในระแวกนี้…มีบ้านของตากับยายเพียงหลังเดียว
ตากับยายจึงปรึกษากันว่า อาจจะต้องฆ่าแม่ไก่แล้วทำอาหารถวายพระ
ทั้งตากับยายรู้สึกเศร้าใจมาก
ด้วยความรักและสงสารแม่ไก่กับลูกไก่ที่ต้องกลายเป็นลูกกำพร้า
แม่ไก่ที่กำลังกกลูกไก่นอนอยู่…ได้ยินดังนั้น จึงตัดสินใจยอมสละชีวิต
เพื่อตอบแทนบุญคุณของตากับยาย แม่ไก่จึงบอกลูกว่า
“ลูกเอ๋ย วันรุ่งแม่ก็ต้องตายแล้ว แม่จะต้องตอบแทนบุญคุณตากับยาย
ที่ชุบเลี้ยงมาตั้งแต่ยังเป็นลูกเจี๊ยบ”
ลูกไก่ทั้ง 7 ได้ยินดังนั้น ก็ร้องไห้ซบอกแม่แน่นขึ้น
แม่ไก่ก็ร้องไห้สะอื้นสั่งเสียลูกต่อไปว่า
“ลูกๆทั้ง 7 ตัว ต้องรักกันสามัคคีกัน น้องจิ๋วต้องเชื่อฟังพี่ใหญ่”
แล้วแม่ไก่ก็กอดลูกน้อยร้องไห้ทั้งคืน จนกระทั่งหลับไป
เช้ามืดวันรุ่งขึ้น ตากับยายทำอาหาร…ตาจึงเชือดแม่ไก่เอาไปทำแกง
เมื่อตากับยายก่อไฟเตรียมประกอบอาหาร
ทันใดนั้น ตากับยายก็ต้องตกตะลึงจนร้องไม่ออก
เมื่อเห็นลูกไก่ทั้ง 7 ตัว กระโดดเข้ากองไฟ ตายตามแม่ไก่ไปเทวดานางฟ้า ต่างก็ทราบซึ้งในความกตัญญูของแม่ไก่และลูกไก่
จึงได้รับลูกไก่ทั้ง 7 ตัว ไปอยู่บนฟากฟ้า มีแสงระยิบระยับเป็นประกาย
ที่ทำให้ลูกไก่ทั้ง 7 ได้ไปเกิดเป็น “ดาวลูกไก่”
หรือที่เรียกว่ากลุ่มดาวฤกษ์ ๗ ดวง ชื่อ “กัตติกา” บนท้องฟ้า
คอยประกาศถึงความดี…ที่มีความรัก และความสามัคคีของพี่น้องทั้ง 7 นั่นเอง
แต่ที่เรามองเห็นได้ด้วยตาเปล่านั้น มีอยู่ 7 ดวง แต่ต่างชาติเรียก “Seven Sisters” ก็มีตำนานคล้ายๆ ของไทยเรา
เรียบเรียงข้อมูล : nitanstory.com
ในความเป็นนิทานนั้นผู้เล่ามุ่งหวังจะสะท้อนให้เห็นถึง ความรักของแม่ที่มีต่อลูก ความเมตตาของมนุษย์ที่มีต่อสัตว์เลี้ยง และความกตัญญูรู้คุณ อีกทั้งความตั้งใจทำหน้าที่ตามบทบาทของตนให้ดีที่สุด ดังนั้นขอให้น้องๆ เรียนรู้แบบอย่างที่ดีจากนิทานเรื่องนี้ เมื่อใด…ที่แหงนมองขึ้นไปบนท้องฟ้า…แลเห็นกลุ่มดาวลูกไก่…ก็ขอให้นึกถึงความสามัคคี…ความรัก…ความกตัญญู…ที่จะส่องประกายระยิบระยับอยู่ในใจของพวกเราตลอดไป