Nitan Story
นิทานพื้นบ้าน

นิทานพื้นบ้านภาคอีสาน เรื่องกบกินเดือน

นิทานพื้นบ้านเรื่องกบกินเดือน เป็นตำนานการเกิดจันทรุปราคาและสุริยุปราคา ที่เล่าสู่กันมาแต่โบราณ นิทานเรื่องกบกินเดือนมีเรื่องเล่าในแบบล้านนา และเรื่องเล่าแบบอีสาน วันนี้เราจะมาเล่าสู่ในแบบนิทานพื้นบ้านภาคอีสาน เรื่องกบกินเดือน ของชาว (ลาว) อีสาน จากหนังสือ ไทบ้านดูดาว ที่เขียนโดย “นิพัทธ์พร เพ็งแก้ว” …ที่มีเรื่องราวดังนี้

เรื่อง กบกินเดือน

ครอบครัวหนึ่ง มีฐานะยากจนมีลูกชายสองคน พี่ชายชื่อ สุริยคราส น้องชายชื่อ จันทรคราส วันหนึ่งพ่อและแม่ไปหาเผือกมันในป่าเพื่อนำมาเป็นอาหาร สองพี่น้องก็ทานอาหารจนหมดไม่ได้แบ่งอาหารเผื่อไว้ให้พ่อกับแม่ เมื่อพ่อแม่กลับมาถึงบ้านจึงโกรธลูกทั้งสองมากจึงไล่ออกจากบ้าน

นิทานพื้นบ้านภาคอีสาน ตำนานการเกิดจันทรุปราคาและสุริยุปราคา กบกินเดือน

สองพี่น้องหนีเข้าไปในป่า ในระหว่างทาง เทวดาที่เป็นเทพพระอาทิตย์และพระจันทร์ เห็นว่าทั้งสองเป็นคนดีเลยช่วยเหลือโดยการปลอมตัวเป็นงูเห่าและพังพอนต่อสู้กัน ครั้นพอฝ่ายหนึ่งเสียชีวิตจึงไปกัดเปลือกไม้มาพ่นใส่ร่างกายจึงฟื้นคืนมาได้ สองพี่น้องจึงเก็บเอาสมุนไพรใส่ห่อยาเดินทางไปด้วย ในระหว่างทางพบกากินลูกไทรแล้วตกลงมาตายจึงเอายาสมุนไพรเป่า ทำให้กาฟื้นขึ้นมาได้ กาจึงขอเป็นทาสรับใช้ สองพี่น้องเดินทางไปเรื่อย ๆ พบปลาดุก, ไก่, ช้าง, แลน (ตะกวด) และกบตาย ก็เอายาสมุนไพรเป่าจนสัตว์เหล่านั้นฟื้นขึ้นมาและยอมเป็นทาสรับใช้ เมื่อเดินทางต่อไปถึงเมืองหนึ่ง สุริยคราสผู้เป็นพี่ได้แต่งงานและมีครอบครัวกับสาวชาวบ้าน

ฝ่ายจันทรคราสเดินทางไปถึงเมืองเพ็งจาน ในช่วงนั้นลูกสาวเจ้าพระยาตาย จึงประกาศว่าหากใครรักษาลูกสาวฟื้นคืนมาได้จะให้แต่งงานด้วย จันทรคราสจึงรักษาลูกสาวเจ้าพระยาให้ฟื้นคืนมาได้ ฝ่ายเจ้าพระยาเห็นว่าไม่สมศักดิ์ศรีจึงบอกว่าถ้าขึ้นปราสาทเสาเดียวได้จึงจะยกให้ตามสัญญา จันทรคราสจึงนำใบตองกล้วยที่กำลังห่อม้วนตัวก่อนที่จะเติบโต (ตองกล้วยลับแลน) มาห่อตัวแลน และเกาะหลังแลนปีนขึ้นปราสาทเสาเดียวได้ จึงได้ครองเมืองและแต่งานกับลูกสาวเจ้าพระยาสืบมา

ต่อมาสองพี่น้องคิดถึงพ่อแม่ที่จากมานานจึงกลับไปเยี่ยมบ้าน โดยได้สั่งธิดาเจ้าเมืองว่าห้ามนำยาสมุนไพรออกมาผึ่งในคืนเดือนเพ็ญ เพราะจะทำให้พระอาทิตย์และพระจันทร์ลงมาเอายาสมุนไพรคืน สองพี่น้องจึงเดินทางด้วยเรือสำเภา พร้อมนำเอาทองคำใส่กระบอกไม่ไผ่ไปให้พ่อแม่ ฝ่ายพ่อแม่เมื่อได้รับกระบอกไม่ไผ่จึงบอกว่าที่นี้มีไม้ไผ่เยอะ ไม่เห็นจะอดอยาก จึงโยนทิ้งลงข้างบ่อ พี่น้องสองคนเสียใจมากจึงเดินทางกลับ

ฝ่ายธิดาเจ้าพระยา (ถูกเทวดาดลใจ) จึงนำเอาสมุนไพรออกมาผึ่งในคืนเดือนเพ็ญ ทำให้พระอาทิตย์และพระจันทร์ลงมาขโมยสมุนไพรนั้นกลับคืน เมื่อจันทรคราสกลับถึงเมืองได้ทราบว่าพระอาทิตย์และพระจันทร์มาเอายาสมุนไพรไป จึงปรึกษาเพื่อนพ้องสัตว์ที่เคยช่วยเหลือชีวิตไว้ ได้แก่ ช้าง กา ปลาดุก และไก่ขึ้นไปเอายาสมุนไพรคืน สัตว์ต่าง ๆ ที่ขึ้นสู่อากาศจะถูกลมพัดกระจัดกระจายไปเป็นดาวอยู่บนท้องฟ้าจนหมด

ส่วนกบอาสาขึ้นไปทีหลัง จึงสั่งไว้ว่าให้ตีฆ้อง ตีกลอง ยิงปืนช่วยเวลาที่จะไปถึงพระจันทร์และพระอาทิตย์ ทำให้คนบนโลกต้องยิงปืน ตีกลอง ตีฆ้องช่วยกบ ขณะที่กบกินเดือน จนปัจจุบันกบก็ยังไม่ได้สมุนไพรวิเศษคืนยังตามต่อสู้กับพระจันทร์และพระอาทิตย์อยู่

นอกจากนี้ ในหนังสือ ไทบ้านดูดาว ยังกล่าวถึงบันทึกในสมุดไทยสมัยต้นรัตนโกสินทร์ กล่าวถึงความเชื่อของชาวบ้านที่สัมพันธ์กับการเกิด กบกินเดือน ไว้ดังนี้
กินแล้วขี้ หรือจันทร์สว่างด้านล่างก่อน ปีนั้นข้าวจะแพง
กินแล้วคาย หรือจันทร์สว่างด้านบนก่อน ปีนั้นสินค้าจะแพง
กินแล้วพุงแตก หรือจันทร์สว่างด้านข้างก่อน ปีนั้นคนท้องจะมีอันตราย

Credit: astroeducation.com
Photo credit:lokwannakadi.com/wannakadi/16.jpg#sthash.jNIBKRHb.dpuf

Related posts

นิทานพื้นบ้านภาคเหนือ เรื่อง ไอ้เซี่ยงเมี่ยงค่ำพญา

Admin

นิทานพื้นบ้านภาคเหนือ เรื่อง กบกินเดือน

Admin

นิทานพื้นบ้านภาคใต้ เรื่องเกาะหนูเกาะแมว

Admin