เขาทะนาน ตั้งอยู่ชายฝั่งอันดามัน ที่บ้านมะหงัง ตำบลทุ่งบุหลัง อำเภอทุ่งหว้า เนินเขาสูงชั้น มีธรรมชาติสวยงดงาม มีสำนักสงฆ์และสุเหร่า สำหรับปฏิบัติธรรมของชาวไทย และชาวไทยมุสลิมภูเขาแห่งนี้ มีตำนานเล่ากันมาว่า…
นิทานพื้นบ้าน เรื่อง เขาทะนาน
มีตากับยาย 2 คน นับถือศาสนาพุทธ ตั้งบ้านเรือนอยู่บ้านพระม่วง อำเภอกันตัง จังหวัดตรัง มีลูกชายหนึ่งคนเป็นบุคคลที่ลักษณะดี…อยู่มาวันหนึ่งมีเรือสำเภาของพ่อค่าต่างชาติ ได้นำสินค้ามาขายท่าเรือกันตัง…ทั้งสามคนไปชมสินค้า …ขณะชมอยู่นั้น นายสำเภาได้เห็นลูกชายตายายน่ารักและสงสาร…ขอเป็นบุตรบุญธรรม…สองตายายจึงยกให้เพราะเห็นว่าลูกชายจะได้อยู่สุขสบาย
นายสำเภาขายสินค้าหมด…จึงออกเรือพร้อมบุตรบุญธรรม จำหน่ายสินค้าไปยังที่ต่างๆ จนร่ำรวยเป็นเศรษฐี…เด็กชายที่นำมาเลี้ยงมีความสุขในกองเงินกองทอ…จนลืมคิดถึงสองตายาย ไม่ได้กลับบ้านมานาน เล่าเรียนหนังสือจนได้ดี…ครั้นโตขึ้นก็แต่งงานกับลูกสาวนายสำเภา อยู่กินอย่างมีความสุข…ฝ่ายภรรยาคิดถึงพ่อสามีรบเร้าให้ไปหา…สามีพยายามบ่ายเบี่ยงหลายครั้ง แต่ทนรบเร้าของภรรยาไม่ไหว จึงส่งข่าวให้สองตายายทราบล่วงหน้า…ฝ่ายสองตายายทราบข่าวดีใจมาก บอกเพื่อนบ้านญาติมิตรให้ทราบจัดที่รับรอง พอใกล้ถึงเวลากลับ สองตายายฆ่าหมู 1 ตัวเพื่อเลี้ยงรับรอง
ครั้นถึงเวลาที่ลูกชายกลับ…สองสามีภรรยานำเรือมาจอดท่าเรือกันตัง ส่งลูกเรือไปสืบดูว่าสองตายายมาหรือไม่ จึงชวนภรรยาขึ้นไปหา…ลูกชายเห็นสองตายายยากจน…ไม่ยอมรับว่าเป็นบิดามารดา…จึงหันหลังกลับ…ฝ่ายยายพยายามดึงแขนลูกไว้…ลูกชายดิ้นรนหนีไม่ได้…แม่เกิดความเสียใจมากถึงกับสาปแช่งว่า “หากเป็นลูกชายของตนแล้ว ขออย่าให้ออกจากฝั่งไปได้ ขอให้มีอันเป็นไปต่าง ๆนานา” แต่แม่ก็ไม่ลืมหมูย่างนำไปวางไว้ที่เรือสำเภา
ขณะที่ชุมชนวุ่นวายอยู่นั้น…เกิดพายุใหญ่พัดมา ทำให้เรือสำเภาแตก สิ่งของกระจัดกระจายลอยไปในทะเล…ในที่สุดมีผู้เฒ่าเล่าว่าเรือสำเภากลายเป็น “เกาะเภตรา” สายสมอเป็น “หินสายสมอ”…ตะบัน (ผ้าโพกหัวมุสลิม) เป็น “ภูเขาบัน”…หมูย่างเป็น “เกาะสุกร” เครื่องตวงสินค้าในเรือเป็น “ภูเขาป้อย ภูเขาแล่ง ภูเขาทะนาน”…เมื่อ 70 ปีที่ผ่านมามีภิกษุรูปหนึ่งมาจากพัทลุง… มาปักกลดและสร้างสำนักสงฆ์ขึ้นและสร้างรูปปั้นไว้รูปหนึ่ง
เป็นคติเตือนใจแก่ชนรุ่นหลัง ในเรื่อง”ความกตัญญูกตัญเวที”…”การได้ดิบได้ดีแล้วลืมบ้านเกิดเมืองนอน“…”การเป็นลูกเนรคุณไม่รู้จักค่าน้ำนม“…การที่พ่อแม่สาปแช่งนั้นย่อมมีความศักดิ์สิทธิ์…”คำสาปแช่งเป็นสิ่งที่ไม่ดี“… เพราะท้ายที่สุดคำสาปแช่งก็ไม่ได้ทำให้อะไรดีขึ้นมาเลย…เพียงแค่ตอบสนองความโกรธอารมณ์ชั่ววูบเท่านั้นและยังเป็นการต่อเวรกรรมซึ่งกันและกันอีกด้วย “ดังนั้นเราจึงควรพูดจาดีต่อกัน บอกสอนแนะนำกันในทางที่ดีด้วยความเมตตาและปล่อยวาง…ย่อมทำให้บังเกิดสิ่งที่ดีๆ เป็นมงคลตามมาซึ่งกันและกัน”